Members Login
Username 
 
Password 
    Remember Me  
Post Info TOPIC: เรามาค้นหากันว่า...เสน่ห์ของหนังแขกอยู่ที่อะไรบ้างนะ.....
daeng

Date:
เรามาค้นหากันว่า...เสน่ห์ของหนังแขกอยู่ที่อะไรบ้างนะ.....
Permalink   


    สวัสดีค่ะ...พี่แดงอยากฟังความคิดเห็นจากทุกๆๆความคิดเห็นว่า...หนังแขกเขาน่าดูเพราะอะไรนะ...คนละนิดละหน่อยก็ได้นะคะ..ดูว่าเราคิดเหมือนกันและช่วยเสริมกันอย่างไร...มองจากทุกๆๆความคิดเห็น..เราจะได้เสริมความคิดของเราด้วยบางทีเรานึกไม่ถึงก็มีได้...เช่นพี่แดงเริ่มก่อนว่า...พี่แดงชอบเขาเต้นภถ้าเรื่องไหนเขาไม่เต้นเหมือนทานข้าวแล้วยังไม่ได้ดื่มน้ำ....แล้วจะมาขยายความต่อนะคะ...

__________________
proud

Date:
Permalink   

สวัสดีค่ะ


ตอนแรกชอบ เพราะ สีสันเสื้อผ้าแล้วก็ฉากค่ะ สวยดี


ตอนนี้ชอบ เพลงกะเต้นค่ะ



__________________
rkam

Date:
Permalink   


proud wrote:





สวัสดีค่ะ ตอนแรกชอบ เพราะ สีสันเสื้อผ้าแล้วก็ฉากค่ะ สวยดี ตอนนี้ชอบ เพลงกะเต้นค่ะ





        ชอบหนังอินเดียและที่มีสีสวรรค์เพราะ


        1. production ดี (ฉาก  กำกับศิลป์  ถ่ายภาพ  เพลงและดนตรีประกอบ  ฯลฯ)


        2. เพลงเพราะ  เนื้อหาหรือคำร้องดี  นักร้องก็เสียงดี  ร้องได้อารมณ์ของหนัง  ของตัวละครจริง ๆ อยากให้คนที่ไม่ชอบดูหนังอินเดีย  ไม่ชอบฟังเพลงอินเดียดุ ฟ้ามิอาจกั้นรัก  สวรรค์เบี่ยงเปลี่ยนทางรัก  อาณุภาพแห่งความรัก  วีร์-ซารา  แล้วจะรู้ว่าหนังอินเดีย  เพลงประกอบหนังอินเดีย  น่าฟังและสนุก พอ ๆ กับตัวหนัง  เพราะเนื้อหาของเพลงจะบอกความเป็นไปของตัวหนังหรือตัวละครด้วย  เหมือนกับหนังการ์ตูนฝรั่งที่ชอบเล่าเรื่องแบบกระทัดและให้อารมณืด้วยเสียงเพลง  อย่าง The Lion King  , The Prince Of Egypt  etc.


        3. ดนตรีดี  ออกแบบท่าเต้นดี  ไม่ซ้ำแนว  มีหลายแนว  ดูแล้วเพลิดเพลิน  ให้ความบันเทิงจริง ๆ


        4. ถ่ายทำดี ตัดต่อดี มุกกล้องดี  ลองดูสวรรค์เบี่ยงเปลี่ยนทางรักหรือวีร์-ซารา ในฉากที่ประทับใจ  จะเห็นว่าถ่ายทำ  มุมกล้องได้อารมณ์ดีมาก  ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้  แต่ดูหนังแล้วจะรูว่าที่ว่ามุมกล้องดี  ถ่ายทำดี  เป็นยังไง  เขาทำได้พิถีพิถันมาก  ยังอยากให้หนังไทยทำได้แบบนี้สังเรื่อง สองเรื่อง


        5. นักแสดงหน้าตาดี  หล่อ  สวย กันทุก ๆ คน  ถ้าจะสังเกตให้ดี  ตัวประกอบที่มาเป็น Dancer จะไม่โดดเด่นเท่าตัวพระเอก  นางเอก  เลย  ทั้ง ๆ ที่เข้าฉากด้วยกัน


        6. เนื้อหาให้คติและสอนคนให้เป็นคนดี  โดยเฉพาะหนังที่เกี่ยวกับความรัก  ไม่ว่าระหว่างครอบครัว-พ่อ, แม่, ลูก หรือระหว่างเพื่อน  ระหว่างคนรัก  หนังสอนได้ดีหมดเลย  สมควรให้เยาวชนเอาเป็นแบบอย่าง  ม่ค่อยมีบทโป๊  หวือหวาเหมือนหนังไทย  หนังฝรั่ง  ดูแล้วคนที่บ่อน้ำตาตื้นก้ร้องไห้ได้เลยฃะ  ลองไปดู ฟ้ามิอาจกั้นรัก(รักของพ่อ-แม่-ลูก)  สวรรค์เบี่ยงเปลี่ยนทางรัก(รักของหนุ่งสาว)  อัญชลี(รักของหนุ่มสาว, รักในวัยเรียน)  วี-ซาร่า(รักที่เฝ้ารออย่างหมดหวัง)  อาณุภาพแห่งความรัก(รักระหว่างศิษย์กับครู  รักระหว่างวัยเรียน) ฯลฯ ดูแล้วจะรู้ว่า ข้อ 1 - 5 ที่กล่าวมาถูกหมดเลย


        7. เนื้องเรื่อง  เนื้อหาไม่ค่อยซ้ำ  ไม่น้ำเน่าเท่าของไทย  บทดี  ไม่ซ้ำซาก 


        8. หนังอินเดียไม่ค่อยมี Re-make เหมือนไทยหรือฝรั่ง  หรืออาจจะมีแต่ไทยไม่ได้สั่งเข้ามาฉาย


        9. หนังอินเดียให้คติสอนใจ  นำไปปฏิบัติหรือสอนเยาวชนให้เป็นคนดีได้ 


       10. อยากจะบอกว่าหนังอินเดียบางเรื่องเป็นหนังที่ไม่ต้องลงทุนมากเท่า The Lord Of the Ring  แต่ให้อารมณ์  ให้ความรู้สึกได้มากและรู้สึกดีแบบ LOTR เลยละ  ที่จริงตัวเองก็เป็นแฟนพันธ์แท้ LOTR เหมือนกัน


       11. เครื่องแต่งกายก็เป็นอีกอย่างที่เป็นเสน่ห์ของหนังอินเดีย  โดยเพาะชุดประจำชาติของเขา  สวยมากเลยนะไม่ว่าหญิงหรือชาย  เราไม่รู้สึกว่าเชย  แต่รู้สึกว่าดูดี  ลองดูหนัง ชาร์ รุค  ข่าน  แต่ละเรื่องสิ  เขาออกแบบเสื้อผ้าได้ดีมาก  ไม่ว่าจะเป็นปาเฮลี-ปาฏิหาร์  วิญญาณรักเหนือโลก  ฟ้ามิอาจกั้นรัก  วีร์-ซาร่า  เครื่องแต่งตายสวย ๆ น่าใส่ทั้งนั้นเลย


        ฯลฯ


        ที่จริงมีมากกว่านี้  เอาไว้ว่าง ๆ จะมาสาธยายต่อ  เพราะเป็นแฟนหนังอินเดียมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนอายุกลางคนแล้ว  นอกจากนี้ก็ยังชอบฟังเพลงอินเดียมาตั้งแต่เด็กทั้ง ๆ ที่ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสามพี่น้อง  ช้างเพื่อนแก้ว  โชเลย์  เทพธิดาในฝัน  ฯลฯ  เทปคาสเซ็ตที่ซื้อมาตั้งแต่เป็นเด็กยังฟังได้อยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ 30 กว่าปีแล้ว  ปัจจุบันก็หาซื้อ CD เพลงอินเดียจากด่านมาเลย์  หรือไม่ก็มาเลย์  ปัจจุบัน EVS ก็ทำออกขาย  แต่เป็นแบบรวมหลายเพลงใน 1 แผ่น  รู่สึกจะให้ซื้อทางไปรษณีย์ 4 ชุดแล้ว  ราคาก็ไม่เพลงเท่าไหร่  คิดว่าถูกด้วยซ้ำไปถ้าเทียบกับของมาเลย์  แต่อยากให้ทาง EVS ทำออกมาแบบเป็น CD เพลงประกอบหนัง(soundtrack)แบบฝรั่งมากกว่า  อาจจะเป็น1แผ่นต่อ 2 เรื่องก็จะดี  เพราะจะเพราะเกือบทุกเพลงในหนังแต่ฃละเรื่อง


        ของแถมถ้าใครชอบ Soundtrack ประกอบหนังอยากให้ลองหา The Classic , หนังเกาหลีมาฟังดู  ไพเราะมาก  ยิ่งถ้าใครได้ดูหนัง-คนแรกของหัวใจคนสุดท้ายของชีวิต(ชื่อไทย)ด้วยแล้วจะชอบ soundtrack แผ่นนี้มาก


        ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ


 



__________________
daeng

Date:
Permalink   

         สวัสดีนะคะ...คุณ proud  คุณ rkam


   พี่แดงก็ชอบเหมือนคุณ proudและ  คุณ rkam นะคะพูดถึงกาตูนฝรั่งที่คุณrkam เล่าลูกสาวพี่แดงดูพี่แดงก็ได้ดูด้วย....พอพบหนังอินเดีอีกครั้ง ปี2544 - 2545 พี่แดงดูหนังอินเดียแล้วยังพูดว่า....ความรู้สึกเหมือนดูกาตูนฝรั่งของน้องยีนเลย....



__________________
daeng

Date:
Permalink   

     ...พี่แดงจะเล่าถึงเสน่ห์หนังแขกที่การเต้นจากที่พี่แดงสังเกตุเองนะคะ...


          เริ่มดูหนังแขกก็รู้สึกแปลกๆๆว่าทำไมนะ...ชอบจังเลย...แต่แรกๆๆก็แยกไม่เป็นมาก...ก่อนที่จะพบเวปฯคุณโม...พี่แดงก็พยายามแยกว่าอะไรในหนังที่พี่แดงชอบที่สุด...(เนื้อหานั้นลืมไปก่อนนะคะ...แบบว่าจับหนังแขกมาเรื่องไหนเรื่องเนื้อหาพี่แดงเลิกกังวลไปเลย...ดูมากจนมั่นใจได้ว่าเนื้อหาเขาพาเราไปได้อย่าปลอดภัยและให้สาระเกินคาดหมายเสมอ.........)


           วันนึงก็ได้เพลงอินเดียที่แถมมากะหนังเรื่องรอยรัก  รอยมลทิน เป็นแผ่นสีชมพูนะคะ... ก็เปิดจัง..ถ้าวันหยุดก็เปิดทั้งวี่ทั้งวัน....โดยเฉพาะเพลงเรื่องแล้วจะรู้ว่ารักคืออะไร....และแพลงที่น้องยีนมักจะล้อแม่ว่าเพลง เอ....อ้า...โอ้...เป็นเพลงของหนังเรื่องมายารักลวงโลก....ก็คือว่าเขาตัดเฉพาะเพลงออกมาจากหนังก็เลยทำให้พี่แดงเริ่มสังเกตุว่า...พี่แดงเริ่มจับจุดได้ถูกแล้ว...( นึกๆๆ...แล้วเหมือนนิทานรามเกียรติที่หนุมาณ ตามหายาสังขรณี ตรีชวาเลยละคะน้องๆๆ..)...เริ่มที่เรามองผ่านกล้อง...หรือตากล้องเป็นมัคคุเทศน์..พาเราเข้าไปชมฉากการเต้นรำ(อบอุ่นเหมือนมีเพื่อนไปด้วยใช่มั๊คะ)....เช่นหนังเรื่องแล้วจะรู้ว่ารักคืออะไร...ฉากแรกเราจะมองเห็นวานราชเดินออกมาพร้อมๆๆกับเสียงกลอง...เสียงกลองก็ดังพอเหมาะกับจังหวะการเต้นนของหัวใจที่มีความสุขและเริ่มสดชื่นเริ่มมีส่วนร่วมกับนักแสดงในฉากนั้นทุกตัว...(หัวใจเราจะเต้นอยู่ภายใต้เสียงกลองไม่ออกมาเกินเสียงกลอง กลองจะเป็นขอบเขตเหมือนคำบริกรรมเช่นพุทธโธเป็นตัน....เพื่อเป็นสิ่งหลอกหล่อจิตที่ไวเหมือนหนุมาณของเราให้เริ่มนิ่ง....สักพักจะเป็นสมาธิในระดับนึง...พอเราเริ่มมีสมาธิ..นิ่งลงกว่าระดับสภาวะปกติอยู่มากนะคะ....และก็จะพบคำว่าสติ...และจะมีสัมปชัญญะในการดูและได้ยินเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆๆ...เรา...(เรารู้สึกได้..ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในฉากเลยหละค่ะ...)เห็นและรับรู้ความสวยของนางเอก ความความพร้องเพรียง ความสดชื่นที่ทุกตัวแสดงมีส่วนร่วมทั้งบนเวทีและรอบๆๆเวที..ทุกตังแสดงมีทักษะไปหมด..แม้กระทั่งคนดู..ถ้ามีพื้นความรู้เรื่องอะไรๆๆของหนังแขกแล้วก็จะยิ่งมีทักษะในการดูนะคะหรือแม้ไม่รู้อะไรบ้างสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือความรักหนังแขกนั้นแหละค่ะเป็นพื้นฐานแล้วเราจะค้นหาของเราเอง..(...สัมผัสแล้วเราจะรู้นะคะว่าเป็นฉากที่มีชีวิตมากๆๆ...ไม่เคยเห็นหนังไหนทำได้ชัดเจนและยอดเยี่ยมเหมือนหนังอินดียเลยค่ะ...น้องๆๆเคยดูการ์ตูนพิน็อคคิโอใช่มั๊ยคะ...แรกๆๆพิน็อคคิโอก็เป็นหุ่นไม้ไม่มีชีวิต...และนางฟ้าก็มาให้พิน็อคคิโอเดินได้ได้แต่ยังไม่มีชีวิตเหมือนมนุษย์ได้จนกว่าพิน็อคคิโอจะรู้จักคุณธรรมของมนุษย์ด้วยตนเอง..พิน็อคคิโอตารู้จักคุณธรรมเรื่องรักพ่อ.......ตอนที่อยู่ในท้องปลาวาฬและช่วยเหลือพ่อให้มีชิวิตโดยไม่ได้นึกหวงแหนชีวิตตนเอง..ในที่สุดนางฟ้าก็มาให้พรให้เป็นคนตามที่เคยบอกเอาไว้...การเต้นในหนังแขกเหมือนเขาเป็นพิน็อคคิโอตอนที่เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ค่ะ...เป็นกล้องจะพาเราดูไปเป็นจุดๆๆ...อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งเห็นสายตาที่พระเอกมองนางเอก...เราก็เชียร์..ลุ้นอย่างมีความสุข...


         เราจะพบคำที่นักวิชาการมักพูดถึงนะคะ...คำว่ามีส่วนร่วม


         แต่นี่เป็นการมีส่วนร่วมที่สมบูรณ์แบบ ...


    เมื่อพี่แดงได้พบเวปฯคุณโมและเห็นกระทู้ของน้องๆๆที่พูดถึงเสียงกลอง...พี่แดงก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจเพราะมีข้อมูลสนับสนุน...เสน่ห์ของหนังแขกคือเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี่นะคะสำหรับพี่แดง...และได้ดูการเต้นในหนังแขกอีกกี่ครั้งๆๆ..ก็ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นมากขึ้นไม่ได้เสื่อมคลายเลย...


          



__________________
Rkam

Date:
Permalink   


แฟนหนังอินเดีย  ครับ


                     สังเกตกันไหมครับว่าหนังอินเดียแต่ละเรื่องเวลามีฉากที่ตัวละครจะได้รับความสะเทือนใจ(รวมทั้งผู้ชม)  ฉากเหล่านั้นจะต้องมีฝนตก  ฟ้าร้อง  คำราม  และกล้องที่จับภากก็จะจับแบบวน(เกือบจะเป็นวงกลม) รอบ ๆ ตัวละคร (คงเป็นภาษาหนังที่เขาเรียกว่า "ดอลลี่" หรือเปล่านี่ผมไม่ทราบ(ใครทราบช่วยแจ้งด้วยนะครับ) อย่างน้อย 1) ในฉากที่พระเอกถูกพ่อ  ตัดพ่อตัดลูกและพระเอกจะหนีออกจากบ้านใน K3G  2) ฉากที่ซิมรันเล่าความในใจให้แม่ฟังว่าได้พบชายในฝันใน DDLJ 3) ฉากที่ Veer ไปพบ Zaara ในพิธีหมั้นที่โบสถ์ 4) ฉากที่พระเอกไปพบพ่อนางเอก  และพ่อของนางเอกให้พระเอกออกจากมหาวิทยาลัยใน Mohabbatein ฯลฯ 5)มีหลายภาพที่กล้องค่อย ๆ เคลื่อนจับภาพไปอย่างช้า ๆ ใน Veer-Zaara  โดยเฉพาะฉากที่มีเพลง  ทำให้ผมประทับใจมากขึ้นไปอีก  เขากำกับภาพได้สวยมาก 


                       ที่กล่าวมานี้  แสดงถึงความพิถี  พิถัน  ความประณีต  ในการทำงานของทีมผู้สร้าง  ที่ให้เกียรติผู้ชม  ไม่ทำงานแบบสุกเอา  เผากิน  ทำให้เขาอยู่ได้นานจนยืนยง  เพียงแต่เห็นชื่อ  ผู้อำนวยการสร้าง  ผู้กำกับการแสดง  และดารา ฯลฯ  ก็รับประกันได้ว่าหนังเขามีคุณภาพ  ถ้าเราเป็นประชาชนชาวอินเดียก็ยอมที่จะซื้อตั๋วเข้าไปชม  และรอชมหนังของเขา  แม้ว่าจะรอนานแค่ไหนก็ตาม  (ผมรอ K3G ฉบับภาษาไทยจาก EVS นานเหมือนกัน  แต่ผมก็สรุปด้วยตัวเองว่า  การรอของผมนั้นเป็นการรออย่างคุ้มค่า  เพราะ EVS เขาผลิตและทำบทพากย์ออกมาได้ดีมาก  รวมทั้งหนังก็ดีและมีคุณภาพอยู่แล้ว-ก่อนหน้านั้นลูกศิษย์ผมเอาฉบับเสียงในฟิล์ม  Sub มาเลย์ให้ผมดู  ผมไม่ยอมดู  เพราะกลัวจะเสียอรรถรสในการดูฉบับภาษาไทยในภายหลัง  รอดูภาษาไทยดีกว่า)


                        ดังนั้นถ้าจะพูดถึงเสน่ห์ของหนังอินเดีย  ผมว่าจากมุมมองของแฟนหนังอินเดียทุกคนจะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป  และแต่ละมุมมองของแต่ละคนก็น่าสนใจทั้งนั้น  และนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความหลากหลาย  ความไม่จำเจ  ไม่ซ้ำซาก  ที่พวกเราจะได้รับรู้และแลกเปลี่ยนกัน


                      ผมมีความฝันว่า  เป็นไปได้ไหมที่พวกเราแฟนหนังอินเดียจะมีโอกาสรวมตัวกันแล้วจัดไปทัวร์ที่ประเทศอินเดียสักครั้ง  ไปสัมผัส  ไปดูการทำงาน  พบปะกับดาราในดวงใจของพวกเรา  ถ้าใครคนหนึ่งของพวกเรามีศักยภาพที่จะทำตรงนั้นได้  ก็คงจะดีนะครับ  โดยอาจจะไป Co กับ EVS หรือบริษัทจัดจำหน่ายหนังอินเดีย  หรือบริษัททัวร์ในไทย  เราไปเสนอโครงการกับเขา แล้วให้เขาประมาณรายจ่ายออกมา  มาคิดเฉลี่ยดูประมาณเท่าไหร่  แล้วประกาศให้พวกเราทราบ  ผมว่าคงจะมีคนสนใจมากเลยครับ  ขอฝากเป็นการบ้านให้ คุณMohabbatein หรือไม่ก็คุณราชา  ไรซาน  ลองคิดดูนะครับ  พวกเราจะได้สังสรรค์  และรู้จักกันด้วย  Trip นี้คงสนุกและประทับใจน่าดูเลย


 






__________________
ราชา ไรชาน

Date:
Permalink   

ครับผมขอบพระคุณสำหรับ ไอเดียมากๆ ครับ คุณครูอาคาม อยากเสนอหนังเรื่อง DEVDAS ครับครู สุดยอดในเรื่องการถ่าย long shot มากๆ เป็นเรื่องที่เข้าชิงออสก้าร์ ด้วย มีมุมกล้องแบบ 3 มิติครับ คือ กล้องเข้าไปอยู่ในวงนักเต้น ดาราคือ อิชวารย่า ไร กับ มธุรี ดิ๊กซิส 2 สุดยอด ดาราสาวบอลลีวู้ด เรียนการเต้นแบบอินเดีย ภารตนาฏยัมมาด้วยครับ สวยมากๆๆๆๆ
การถ่ายทำย่อมยากมากๆ เพราะหวังออสก้าร์ครับ ปัจจุบัน แมงป่่อง จำหน่ายในปกสวยเดินแถบทอง สวยมาก สมราคา ครับ

สวัสดีครับ

ราชา ไรชาน


__________________
daeng

Date:
Permalink   

***ส่วนหนึ่งของเสน่ห์หนังอินเดียที่พี่แดงประทับใจเด่นชัดก็เหมือนเดิมค่ะ..การเต้นรำนั่นหละนะคะ..พี่แดงรักการเต้นของหนังอินเดียเป็นชีวิตจิตใจค่ะ...รักมากก...****


    ดูเรื่อง Dus วันวินาสกรรมก็มีเพลงและการเต้นจากหนังที่ชอบและประทับใจมาฝากค่ะ....เพลงในฉากที่เหล่าพระเอกไปตามหาตัวผูร้ายอาชิด..เพื่อถามหาตัวผู้ร้ายยัมบาวาลชึ่งเป็นผู้ร้ายตัวสำคัญของเรื่องนะคะ...ในเทคค่ะ..การเต้รสวยงาม น่ารักและเซ็กซี่มาก..น่าดูนะคะ..ไม่น่าเกลียดอะไรเลย..ผู้หญิงก็ดูได้ค่ะ...


ความหมายเนื้อเพลงนะคะ..พี่แดงไม่ทราบชื่อเพลงเลย...


    ให้ความรักเถิด กอดฉันไว้เถิด ให้ความรักเถิด กอดฉันไว้เถิด ให้ความรักเถิด กอดฉันไว้เถิด ฉันกระวนกระวายอยากเห็นคุณสักครั้ง มาปรากฏตัวมาจับมือฉันไว้เถิด เธอเป็นสมบัติของฉัน ให้โอกาสเถิด ให้ความรักเถิด กอดฉันไว้เถิด ความปรารถนายังไม่บรรลุผล ยังไม่บรรลุผล หัวใจต้องการให้ถูกขโมยไป ถูกขโมยไป ยังไม่มีความฝันใดๆในดวงตาของฉัน ยังไม่มีมนต์วิเศษใดๆครอบงำฉัน ให้ฉันข้ามไปในเรือแห่งความรักเถิด ให้โอกาสเถิด ให้โอกาสเถิด ให้ความรักเถิด กอดฉันไว้เถิด ฉันกระวนกระวายอยากเห็นคุณสักครั้ง ให้โอกาสเถิด ให้โอกาสเถิด มาปรากฏตัวมาจับมือฉันไว้เถิด เธอเป็นสมบัติของฉัน ...


***อารมย์ในเทคก็เหมือนในเทคคะ..และผู้ชมอย่างเราก็มองเห็นเหล่าพระเอกใช้สายตาสอดส่อง ค้นหาผู้ร้ายยย...อาชิด....***



__________________
daeng

Date:
Permalink   

**  เพลงและการเต้นที่พี่แดงประทับใจและชื่นชอบมากอีกเพลงนะคะ...เรื่อง Dus วันวินาสกรรม..ค่ะ..ฉากที่เป็นวันหมั้นของน้องสาวหัวหน้าหน่วยต่อต้นผู้ก่อการร้ายซีดาน...(ซันเจย์ ดัท..)..และเป็นน้องสาว (ดิยา ไมซา..) ของสมาชิกทีมหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้ายชายชาญ..(อะบิเชค...)***


***ความหมายเพลงนะคะพี่แดงไม่ทราบชื่อเพลง...เริ่มจากพระเอกอาทิตติยา(ชาเยด ข่าน ..) กอดพระเอกชายชาญ ซึ่งเป็นคู่หู อย่างใจหายและเศร้าลึกๆ..ทำไมนะ..เพราะปกติจะเป็นคู่กัดกันด้วยยย...และการร้องและการเต้นอาทิตติยาจเป็นตัวยืนค่ะ..ส่วนตัวแสดงนอกนั้นจะสลับกันตามบทบาทแต่น้อยกว่า...เป็นบรรยากาศงานหมั้นค่ะ..***


 *** ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ใครสักคนที่น่ารู้จัก ผู้หญิงคนนั้คือใคร ฉันต้องการจะรู้ ฉันจำเป็นต้องรู้ ผู้หญิงคนนั้นคือใคร เธอมาจากไหน ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ฉันต้องการพบเธอ หัวใจพูดอย่างหนึ่ง ริมฝีปากบอกอีกอย่าง เรามัววกไปวนมา สิ่งที่อยากจะบอกก็จงบอกไป ช่วงเวลานี้ก็จะลดน้อยลงไป มันมิใช่เรื่องใหม่ของความรัก ที่จะเกิดสิ่งนี้ขึ้น เมื่อได้สบตาอยู่ทุกเวลา ก็ทำให้หัวใจของตนต้องหายไป ใบหน้าที่เข้ามาในดวงตาทำให้เกิดจังหวะขึ้นเล็กน้อย ซัมๆ เธอมาปรากฏตัว เข้ามาอยู่ในจิตใจฉัน ซัมๆ เธอมาปรากฏตัว โอ้หัวใจพูดอย่างหนึ่ง ริมฝีปากบอกอย่างหนึ่ง  เรามัววกไปวนมา สิ่งที่อยากจะบอกก็จงบอกไป ช่วงเวลานี้ก็จะลดน้อยลงไป มันมิใช่เรื่องใหม่ของความรัก ที่จะเกิดสิ่งนี้ขึ้น เมื่อได้สบตาอยู่ทุกเวลา ก็ทำให้หัวใจของตนต้องหายไป ใบหน้าที่เข้ามาในดวงตาทำให้เกิดจังหวะขึ้นเล็กน้อย ซัมๆ เธอมาปรากฏตัว เข้ามาอยู่ในจิตใจฉัน เมื่อเธอต้องแต่งไปนั้นคือการแยกจาก หัวใจจะเต็มเปี่ยม ไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว ความรู้สึกจากดวงใจเธอเข้ามาอยู่ในดวงตาของฉัน จะรู้สึกกระวนกระวายเมื่อคิดถึงเธอ ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ใครสักคนที่น่ารู้จัก ผู้หญิงคนนั้คือใคร  เฮ้ หัวใจพูดอย่างหนึ่ง ริมฝีปากบอกอย่างหนึ่ง เรามัววกไปวนมา สิ่งที่อยากจะบอกก็จงบอกไป ช่วงเวลานี้ก็จะลดน้อยลงไป มันมิใช่เรื่องใหม่ของความรัก ที่จะเกิดสิ่งนี้ขึ้น เมื่อได้สบตาอยู่ทุกเวลา ก็ทำให้หัวใจของตนต้องหายไป ใบหน้าที่เข้ามาในดวงตาทำให้เกิดจังหวะขึ้นเล็กน้อย ซัมๆ เธอมาปรากฏตัว เข้ามาอยู่ในจิตใจฉัน***


***จบเพลงพระเอกอาทิตติยาก็สนุกสนานจนลืมว่าตนเองเศร้า..ทำให้พอมองตากันกะคู่หูแล้วรู้สึกตัวและต่างคนต่างเกาหัวและเดินผละกันไป..อย่าง..งง..


***เพลงนี้และบรรยากาศงานหมั้นให้ความรู้สึกหลากหลายดังนี้ค่ะ...***


 1. ความเสียดายหญิงคนรักอย่างลึกซึ้งของพระเอกอาทิตติยา..เพราะอาชีพตำรวจที่ต้องเสี่ยงตายแลไม่มีเวลาให่คนรัก..คนที่หมั้นเคยเป็นคนรักของเขานะคะ..


2.ความสุขสมหวังของคู่รักที่หมั้นกันค่ะ


3.ความปลาบปลื้มของพี่ชายว่าที่เจ้าสาว..หัวหน้าซีดาน..และนายตำรวจชายชาญ..และความขัดเคืองใจนิดๆของชายชาญเรื่องอาทิตยากะน้องสาว???..ประเด็นนี้มีเฉลยตอนจะจบในหนังด้วย...


4.หัวหน้าซีดานเป็นหัวหน้าที่เป็นผู้นำที่เยี่ยมค่ะ..และเมื่อเวลาส่วนตัวเขาก็เป็นพี่ชายที่แสนดีค่ะ..และจากเพลงนี้..ลูกน้องทุกคนสามารถพยายามดึงมาดที่เคร่งขรึมออกไปจากหัวหน้าซีดาน...แต่คล้ายจะไม่ได้ผลค่ะ..ทุกคนก็ตกใจ..แต่หัวหน้าซีดานเขาซ่อนอารมย์ขันไว้ให้ทุกคนแปลกใจ...และได้ดึงความรักกุ๊กก๊กๆที่เขามีต่อตำรวจหญิงที่เป็นผู้ช่วย(ศิลปา เซตตี้..)..


5.ความ..งง..น่ารักๆ ..ของตำรวจหญิง(ศิลปา เซตตี้..)..ต่อหัวหน้าซีดานผู้ที่เคยเคร่งขรึม...


6.ความอาลัยน้องสาวที่นางเอก(ศิลปา เซตตี้..).ช่วยหัวหน้าซีดาน..ในฐานะเจ้าภาพฝ่ายหญิงเพราะหัวหน้าซีดานและน้องๆ..ขาดพ่อแม่...เธอช่วยให้งานดูมีมนต์ขลังขึ้นค่ะ...ขนลุกเกรียวเลยค่ะ...


7.ผู้ร่วมงานอื่นๆก็สนุกสนานไปตามบรรยากาศของงานหมั้น


***พี่แดงประทับใจหนังอินเดียที่ทำเพลง การเต้นและอารมย์ทุกอย่างได้ดูจริงและงดงาม..เพลงนี้สามารถถ่ายทอดอารมย์ทั้ง 7 ข้อโดยไม่ต้องพูดบรรยายเลยค่ะ...ผู้ชมดูได้อย่างไม่สะดุด...ยอดเยี่ยมค่ะหนังอินเดีย***



__________________
daeng

Date:
Permalink   

---ฉากเพลงหนังเรื่องFanaa..หนังพระเอกอามีย์สุดที่รักของพี่แดง..แสดงคู่นางเอกคาโจล..ค่ะ...เป็นเพลงที่พี่แดงรักมากีกเพลง..มีเสน่ห์ตรงไหนนะ....


***เริ่มเล่าตรงฉากที่นางเอกวิ่งและเรียกพระเอก..หิมะตกด้วยนะคะ...และก็ตบหน้าพระเอกค่ะ...พร้อมกับพูดว่าและเริ่มร้องให้.."คุณกล้าดีอย่างไรถึงจะทิ้งฉันไปอีกน่ะ...ชีวิตของคุณเป็นของฉันแล้วนะคุณรู้มั๊ย คุณทิ้งฉันไปไม่ได้ คุณไปไม่ได้ ได้ยินมั๊ยคุณทิ้งฉันไปไม่ได้"...จากนั้นพระเอกนางเอก็กอดกันร้องให้กลางหิมะ...ต่อมาก็เริ่มเพลงค่ะ..มีพิธีแต่งงานนางเอกกะพระเอก..มีพ่อนางเอก..และหนูน้องเรฮาน..ลูกชายของพระเอกกะนางเอกค่ะ..จู๊บแก้มพระเอกและเรียกพ่อ....ไม่ทราบชื่อเพลง..


คำบรรยายเนื้อเพลงนะคะ.....


พระเอกร้อง:  เมื่อฉันมีมือของเธออยู่ในมือของฉัน  ทั้งสวรรค์ก็อยู่กับฉัน  เมื่อเธออยู่เคียงใกล้แล้วโลกนี้มีค่าอะไร


นางเอกร้อง:เมื่อฉันมีมือของเธออยู่ในมือของฉัน  ทั้งสวรรค์ก็อยู่กับฉัน  เพื่อความรักของคุณฉันยอมถูกทำลาย


พระเอกร้อง: เมื่อฉันมีมือของเธออยู่ในมือของฉัน  ทั้งสวรรค์ก็อยู่กับฉัน


นางเอกพูด:ขอให้ลมหายใจของฉันมีที่พักในหัวใจของคุณ


               ขอให้ความรักของฉันถูกทำลายในความรักของคุณ


พระเอกร้อง:เสียงใกล้เพียงใด ลมหายใจฉันหอมหวล ใกล้เสมือนเพลงในริมฝีปาก ใกล้เสมือนคืนกับความทรงจำ ใกล้เสมือนแขนกับอ้อมกอด


นางเอกร้อง:อยู่เคียงใกล้เสมือนความฝันกับดวงใจ อยู่เคียงใกล้ฉันเถิด โอ้ชีวิตคู่ของรัก เมื่อคุณอยู่ใกล้แล้วโลกนี้คืออะไร เพื่อความรักของเธอฉันยอมถูกทำลาย..(เป็นฉากที่พี่แดงชอบมากที่..บอกว่าอยากเป็นคาโจล..พระเอกนอนบนพื้นมีต้นไม่ใบสีส้ม...ร่วงงงง...นางเอกก็กลิ้งเข้าหาอ้อมกอดพระเอก...)


พระเอกร้อง:เมื่อฉันมีมือของเธออยู่ในมือของฉัน  ทั้งสวรรค์ก็อยู่กับฉัน  เพื่อความรักของเธอฉันยอมถูกทำลาย


พระเอกพูด:ปล่อยดวงตาผมเต็มไปด้วยน้ำตาเถอะ วันนี้ปล่อยให้ผมร้องให้เถอะ ให้ผมอยู่ในอ้อมแขนของคุณเถอะ ทะเลแห่งความเจ็บปวดจะทำให้คุณเปียกโชกไปหมดทั้งตัวและหัวใจ


นางเอกร้อง:ใกล้เสมือนความลับจังหวะเนของหัวใจ ใกล้เสมือนสายฝนกับเมฆ ใกล้เสมือนดวงจันทร์กับค่ำคืน  (อามีย์หอมแก้มคาโจล..)ใกล้เสมือนสีเขียนขอบตากับดวงตา


พระเอกร้อง:ใกล้เสมือนคลื่นกับมหาสมุทร อยู่เคียงใกล้ฉันเถิดยอดชีวิตของฉัน เมื่อเธออยู่เคียงใกล้แล้วโลกนี้มีคืออะไร เพื่อความรักของเธอฉันยอมถูกทำลาย


นางเอกร้อง:เมื่อฉันมีมือของเธออยู่ในมือของฉัน  ทั้งสวรรค์ก็อยู่กับฉัน


พระเอกร้องพูดลมหายใจของผมไม่สมบูรณ์ จังหวะการเต้นของหัวใจไม่สมบูรณ์ ผมไม่ครบถ้วนสมบูรณ์  แต่ตอนนี้พระจันทร์เต็มดวงท้องฟ้าก็สมบูรณ์ ผมครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว..(พระเอกกอดนางเอก ที่ระเบียง..และมีดวงจันทร์..)....


 



__________________
Page 1 of 1  sorted by
 
Quick Reply

Please log in to post quick replies.

Tweet this page Post to Digg Post to Del.icio.us


Create your own FREE Forum
Report Abuse
Powered by ActiveBoard