หวัดดีค่ะ ช่วงนี้ เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นในชีวิต เลยทำให้ตอนนี้อยู่ในอารมณ์เศร้า เลยอยากดูหนังเศร้าๆ แนะนำชื่อหนังให้หน่อย ได้มั้ยคะ ขอชื่อนักแสดงด้วยก็ดี ขอบคุณมากมากค่ะ
ปล. ไม่เอาหนังของชารุข นะคะ เพราะว่าเป๋า ดูหมดแล้วอ่ะ
แหม... คุณเป๋าไม่น่าดักคอเลยว่าไม่เอาของชารุค เพราะกะลังจะมาบอกให้กลับไปดู Devdas ที่คุณเป๋าแนะนำข้าวมาอีกสักที ตอนที่คุณเป๋าแนะนำข้าวที่พันทิป ข้าวอุตส่าห์พยายามจำไว้นะว่าจะไม่ดูเรื่องนี้เพราะคุณเป๋าบอกว่าเศร้า แบบว่าข้าวไม่ชอบหนังเศร้า (เพราะชีวิตจริงมันก็เศร้าพออยู่แล้ว) ในหนังขอดูหนังแฮปปี้เอนดิ้งเถอะ ไปไปมามาลืมซะงั้นว่าเคยเตือนตัวเองไว้ว่าไง ไปหยิบ Devdas มาดูจนด๊ายยยยย ขนาดดูตอนง่วงจัดๆ นะยังน้ำตาซึมเลย นี่ถ้าดูตอนตื่นดีๆสงสัยร้องไห้น้ำตาไหลเป็นปี๊บแน่ ตอนช่วงที่ Devdas กะลังจะเดินทางไปหา ปาโรตอนใกล้จบ ลุ้นจัดมั้ง เครียดด้วยรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก คิดว่าคงลืมตัวลุ้นจนเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวอ่ะ เป็นเอามากไหมเนี่ย จบได้กระชากใจหลายแท้ อะไรมันจะขนาดน้านนนน ขนาดตอนนั้นข้าวว่าข้าวง้วงง่วงนะ แต่พอหนังจบก็ยังนอนคิดเรื่องหนังอีกตั้งพักใหญ่กว่าจะหลับได้อ่ะ โฮๆ เดฟดาสสสส
บุญฉันมีแต่คงไม่ถึง ฟ้าจึงไม่เมตตา
.....POPO....น้องรัก....พี่ไม่รู้ว่าใคร...เรื่องหรือสาเหตุอะไร...ทำให้น้องเศร้า....ถึงขนาดอยากประชดความเศร้าด้วยการเพิ่มความเศร้าให้กับชีวิตแบบสุดๆ......
....พี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าน้องต้องดูหนังของ SRK มากกว่าพี่แน่ๆ...และถ้าพูดถึงเรื่องหนังเศร้าๆ....SRK...ก็มีอยู่เป็นกอง....และก็แสดงได้ดีมากด้วย...พี่ตาบวมให้กับหลายเรื่องที่ดู
พี่มีจะแนะนำอยู่ 5 เรื่องนะ ไม่รู้ว่าจะซ้ำกับที่ POPO เคยดูมั่งหรือยัง
1. TERE NAAM .... SALMAN KHAN กะ BHUMIKA CHAWLA เรื่องนี้เศร้ามากเลยหล่ะ ขนาดพี่ VEENA ยังบอกเลยว่าเศร้า...แต่ขอเตือนว่าช่วงแรกๆ อย่าเพิ่งหมั่นใส้ทรงผม SALMAN นะจ๊ะ เรื่องนี้พี่อาการเดียวกะยัยขวัญข้าว...ที่ดูเรื่อง DEVDAS เลยล่ะ...หนังจบตั้งเกือบตี 1 แต่ขอโทษ...อารมณ์พี่ยังไม่จบค่ะคุณน้องขา.....นอนไปก็นึกถึงเหตุการณ์ในหนังไป...สงสารพระเอกกะนางเอกมาก
2. DIL NE JISE APNA KAHAA ..... SALMAN KHAN , PREITY ZINTA , BHUMIKA CHAWAL เศร้าจริง ๆ นะจ๊ะ ถึงตอนจบจะ HAPPY แต่ช่วงอื่นๆ ของเรื่องและตอนใกล้จบ...เรียกน้ำตาได้เป็นระยะๆ
3. LAKSHYA .... HRITHIK ROSHAN & PREITY ZINTA ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังแนวสงครามอะนะ...ก็อย่านึกว่าจะได้ความมันเพียงอย่างเดียว...ขอโทษเถอะนะ...เรื่องนี้มีฉากเศร้าเยอะแยะมากมาย.....เห็น HRITHIK ร้องให้ทีไร...หัวใจพี่แทบจะแตกสลายซะให้ได้
4. BLACK ...... AMITABH BACHCHAN & RANI MUKHERJEE
เรื่องนี้มีพากย์ไทยแล้ว...และพี่คิดว่า POPO อาจจะเคยดูแล้ว...เลยไม่บรรยายมากเดี๋ยวจะเป็นสอนปลาโลมาที่เป็นแชมป์โลกว่ายน้ำ...ให้หัดว่ายน้ำซะอีก.....คือถ้าดูแล้วก็เอามาดูอีกก็ได้...มันเศร้านา....พี่งี้ร้องบานตะไท....ยิ่งตอน AMITABH ความจำเริ่มไม่ดีแล้วด้วยนะ...โอ้โห...สงสารจับจิตจับใจทีเดียว....RANI แสดงได้ดีมากจริงๆ...พี่ว่าดีกว่าทุกเรื่องของเธอเลยล่ะ (ในความคิดของพี่คนเดียวนะ) ...และเรื่องนี้เพลงก็เพราะๆมากๆ เลยด้วยน้า....แฮ่ๆๆๆๆๆ...ขอโทษที...เรื่องนี้ไม่มีเพลงเลยซ้ากกาเพลง...นอกจากดนตรีบรรเลง...แต่ก็เพราะอยู่ดี
5. BAGHBAN (ลูกไม้...ไกลต้น) AMITABH BACHCHAN , HEMA MALINI , SALMAN KHAN (เป็นดารารับเชิญ) นี่ก็ POPO อาจจะดูแล้วก็ด้ายมั้ง...ไม่บอกมากนะ..เกี่ยวกับพ่อ-แม่ ที่ถูกลูกๆ เหมือนจะทอดทิ้งอะนะ....คือไม่สนใจจะเลี้ยงดูพ่อแม่...หนำซ้ำยังให้พ่อแม่ต้องแยกกันอยู่อีก....ทำบาปกรรมกะพ่อแม่ซะจริงๆ.....มีแต่ลูกบุญธรรมเท่านั้นที่รักและบูชาพ่อกะแม่....ส่วนลูกจริงๆ...กับทอดทิ้ง พอพ่อมีเงินก็อยากจะมาขอโทษ....แต่สายไปเสียแล้ว....ตอบจบ AMITABH พูดได้สะใจมาก....เรียกน้ำตาได้ท่วมจอเลยหล่ะ....และเป็นหนังที่ดีนะ.....ทำให้เราต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง...ว่าเราทำดีกับพ่อ-แม่เรา หรือดูแลพวกท่านดีขนาดไหน .....พี่ดูเรื่องนี้แล้วก็คิดถึงพ่อกะแม่มาก....
.....ของพี่มี 5 เรื่องเท่านี้หละนะ จริงๆ ก็มีอีกหลายเรื่องนะ...แต่มันอาจจะเศร้าสำหรับพี่คนเดียว (เพราะพี่เป็นคนอ่อนไหว) .....ถ้า POPO...ดู 5 เรื่องนี้แล้วคิดว่าไม่มีเรื่องไหนที่กระชาก...อารมณ์เศร้าออกมาเลยอะนะ...พี่แนะนำเรื่องนี้เด็ดสุดๆ...และมั่นใจด้วยว่า POPO ยังไม่เคยดูด้วยหละ......
จิตแพทย์จ๋า!!!!!....แก้ปัญหาให้หนูที...
ที่พี่เปรมบอกมา 5 เรื่อง ขอบอกว่าเคยดูเรื่องเดียวเองค่ะ คือ เรื่อง แบล๊ค หนังดีค่ะ
อีกสี่เรื่อง ที่เหลือยังไม่เคยดูเลย เดี๋ยวจะไปหามาดูนะ ชอบดรามา หน่อยๆ นึง LAKSHYA นี่คงน่าดูนะ เพราะหริติ๊ก (ชอบเหมือนกัน) แต่ที่พี่เปรม แนะนำมามีแต่หนังซัลมานทั้งนั้นเลยเนอะ อิอิ ขอคนอื่นบ้างนะค้า เพราะเป๋ามีชารุขอยู่เต็มหัวใจแล้ว เลยไม่ค่อยกรี๊ด ซัลมานเท่าไหร่ (แต่ไม่ได้เกลียดเค้านะ) แต่เรื่องที่มีซัลมานแล้วชอบมากก็คือ Hum Dil de Chuke Sanam นะ ชอบเรื่องนี้มาก แต่ตอนจบไหง มีคนมาขโมยซีนซะงั้น หุหุ
....POPO จ๋า....
พี่ต้องสารภาพตรงๆ...เลยนะว่า หนังอินเดียส่วนมากที่พี่ชอบดูและเคยดู...ก็จะเป็นของ 3 คนนี้แหละ
1. Shah Rukh Khan (หนังที่พี่เคยดูก็ 25 เรื่อง เก็บไว้อีก 4 เรื่องยังไม่ได้ดู)
2. Hrithik Roshan (อันนี้ดูมา 8 เรื่อง เก็บในตู้อีก 1 เรื่อง ยังไม่ได้ดู)
3. Salman Khan ( ดูแล้ว 32 เรื่อง อีก 20 เรื่องมีเก็บแต่กำลังทยอยดู)
ก็ในเมื่อ SRK นู๋ก็น่าจะดูเกือบครบแล้วทุกเรื่อง พี่หรือจะแนะนำนู๋ได้ ส่วน HR ก็มีหนังออกฉายมาแค่ 10 เรื่อง (จำไม่ค่อยได้แล้วถ้าพลาดก็ บวก ลบ ไม่เกิน 1 เรื่อง) พี่ก็เหลือ แต่ SMK คนเดียวเท่านั้น ก็พี่เขาเล่นหนังมาที่ออกฉายไปแล้ว พี่นับรวมได้ก็ 60 เรื่องแล้ว (รวมที่เป็นดารารับเชิญด้วย) พี่ก็เลยไม่ค่อยได้ดูหนังของคนอื่นบ่อยนัก ....อย่างที่ POPO..บอกไว้อีกกระทู้ว่า หนังอินเดียมีมากมายเหลือเกินแค่ที่เข้ามาในไทยเราก็เลือกดูกันไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว....
นี่ก็เป็นเหตุผลที่พี่ส่วนมากแล้วจะเลือกดูแต่หนังของคนที่พี่ชอบเป็นสำคัญ...แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า...ที่ดาราคนอื่นๆ เล่นพี่ไม่ดูนะ ก็มีดูบ้างหลายเรื่องเหมือนกัน เช่นหนังของ Abhishek Bachchan ที่พี่เคยดูก็มี 8 เรื่อง .....แต่พี่ไม่ค่อยจะกล้าพูดถึงมากนัก...เพราะพี่ไม่ค่อยได้ศึกษาประวัติของเขา
ที่พี่มักจะพูดถึง Salman Khan บ่อยๆ เพราะช่วงนี้มักจะมีคนถามถึงและมีข่าวของเขาบ่อย ....และพี่ก็ดูหนังของเขามากกว่าดาราคนอื่น
Hum Dil De Chuke Sanam เรื่องนี้พี่อยากดูมากๆ เสาะหาเลือดตาแทบกระเด็น....พอเข้ามาที่ Web นี้ได้ไม่นานที่ก็รู้แหล่งหาซื้อ และพอได้ดูก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย....บ้านพ่อครูสวยมากจริงๆ ยิ่งเวลาที่ถ่ายทำบนดาดฟ้าแล้วถ่ายให้เห็นสถานที่รอบๆ ...สวยเกินจะบรรยาย....แอบสงสารทั้งนางเอกและพระเอกอยู่ตั้งนาน อีตอนพระเอกถูกไล่ออกมา เพลงประกอบที่ชื่อ Tadap Tadap Ke บางสำนักก็จะพิมพ์ว่า Tarap Tarap Ke เพลงนี้จะเน้นไปที่เสียงคนร้องเป็นหลักมีดนตรีคลอเบาๆ ช่างเข้ากับบรรยากาศตอนนั้นซะจริงๆ .....ยิ่ง Ash กรีดข้อมือเอามาแช่ในสระน้ำให้เลือดไหลออกมา....แหม....มันช่างน่าสงสารซะเหลือเกิน พี่ชอบเพลงนี้มากที่สุด (เฉพาะเรื่องนี้นะ)แล้วเนื้อเพลงก็บรรยายถึงความเจ็บปวด เสียงคนร้องก็โหยหวน...ชวนให้น่าสงสารเข้าไปใหญ่......พอไปตามกันถึงเมืองนอกที่ก็ลุ้นให้ได้เจอกันซะที......แต่มาเจอ ซีนที่ต้องกอดจูบกันบนรถ...เพราะไม่มีตั๋วให้เขาตรวจอะนะ.....พี่ก็รู้ในบัดเดี๋ยวนั้นเลยว่า...Salman ต้องกินโรตีโรยแห้วเป็นแน่แท้.....สุดท้ายคนที่น่าสงสารที่สุดก็เป็น Salman โดน Ajay มาทำคะแนนเอาตอนท้าย เรื่องนี้เพลงเยอะนะ ตั้ง 11 เพลง
ดูเรื่องนี้แล้วก็เสียดายเรื่องราวระหว่าง Salman กะ Ash นะ อยากให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมจังเลย.....พี่เต็มใจที่จะหลีกทางให้....
เอ อย่างรู้จังเลย ว่า ราชา ของคุณ Prem ล่ะครับ ยังไม่ลืมราชาใช่ไหมครับ ผมนกแล ขอเชียร์ ครับ
ล้อเล่นนะครับ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆ SMK นี่ เป็นสาขาย่อยของ Mk สุกี้ ที่ มุมไบหรือครับ อิอิอิ
นกแล ขอแจมกับราชาด้วยคน คุณ เปรมต้องหาผู้ช่วยแล้วมั้งเนีย
สวัสดีครับ
นกแลเพื่อนนกหลับ
....คุณนกแล....
เมื่อก่อนเราก็นึกชื่นชมคุณอยู่นะ...ที่ช่างสรรหาข่าวต่างๆ...มาเล่าให้พวกเราได้รู้กัน....และได้ไปเห็นข้อความของราชา....ที่บอกว่าตอนแรกๆ....นึกว่าคุณจะเข้ามาป่วนซะอีกแต่พอนานๆ ไป ....ก็รู้ว่าคุณน่ะมาดี....และราชายังขอโทษที่เขาคิดอกุศลกับคุณ.....
ผ่านมาไม่เท่าไหร่....มาวันนี้ไม่นึกเลยว่าคุณนกแล...กะราชา จะสนิทสนมกันรวดเร็วถึงเพียงนี้....นี่คุณ 2 คนไปไกลกันขนาดจะร่วมด้วยช่วยกันถล่มเราแล้วใช่ไหม
พระเจ้า....ให้เราเกิดมาเจอกะราชา...นั่นก็ทำให้เราทุกข์ทรมานหัวใจมากพออยู่แล้ว....วันๆ...ต้องมาคอยแก้เกมที่ราชาวางไว้....เราก็เหนื่อยใจจะแย่....เท่านั้นไม่พอ....พระเจ้ายังส่งคุณนกแลมาอีก....ทีนี้เราจะทำไงดีหล่ะเนี่ย.....โอ้ องค์ราม ช่วยลูกด้วย!!!!
ผู้ช่วยของเราก็หายหน้าหายตากันไปหมดเลยช่วงนี้....ทั้ง Veena คุณพี่กบ และยัยยุ้ย ส่วนพวกที่มีอยู่ก็น่าน้อยใจซะนี่กระไร เช่นยัยน้ำข้าว (ขวัญข้าว ข่าน)กะยัย POPO ยัยก้อย พวกนี้ก็ไว้ใจไม่ค่อยจาได้เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ยังมีอีก นาย moomud กะ ยัย Losnee สองศรีพี่น้องแห่งกรุงเก่าอีก 2 คนนี่ก้อพึ่งไม่ค่อยจาได้
แล้วเรื่อง SMK เนี่ยอะนะคุณนกแล ก็เดาถูกต้องแล้วจ้า.....
SMK ย่อมาจาก ...SALMAN KHAN SUKI .... มีสาขาอยู่ทั่วโลกเลยง่ะ...ไม่เฉพาะ ใน อินเดียเท่านั้น ส่วนที่เมืองไทยลิขสิทธิ์เป็นของเรา กำลังจะเปิดสาขาแรกเร็วๆ นี้อะแหละ ทีนี้ MK ก็เตรียมตัวเจ๊งได้
ไปหล่ะนะคุณนกแล....จะแจมกะราชาก็ตามสบายนะจ๊ะ...เรายินดีต้อนรับจ้า
...ฮิๆๆๆ...แต่ขอเตือนคุณนกแลด้วย ฟามหวังดีจากจายว่า...ฉีดวัคซีนหรือยังจ๊ะ...อยู่ใกล้ๆ...ราชามากๆ...ระวังจะติดเชื้อนะ.....คือเราไม่ได้ห่วงว่าราชาจะติดเชื้อไข้หวัดนกแลจากคุณหรอกนะจ๊ะอย่าเข้าใจเราผิด....ที่เราห่วงคือคุณนกแลตะหาก...จะไปติดเชื้อจากนายราชาตะหาก.....
น่าน เพิ่งได้รู้ ไอ้เพื่อนเรามันไปเข้าข้าง ราชา เสียแล้ว คุณ Prem วางใจ ทัพอากาศ นกหลับ จะ จัดการ เจ้านกแล เอง อิอิอิศึกอารยันนนนนนนนน ชักจะมัน มีทั้ง คน และ นก จับคู่ ประลองคารม และ ไหวพริบ อิอิอิ น่าจะมันอ่ะ
.....ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะจ๊ะคุณนกหลับ....
เราว่าคุณนกหลับ กะ คุณนกแล คงจะเป็นมวยคู่เอกอีกคู่ที่แฟนๆ...จะต้องคอยติดตามชมเพราะคุณทั้งคู่คงจะรู้ใส้รู้พุงกันดี...
และขอยืนยันอีกครั้งว่า...คุณนกหลับ เป็นผู้รู้...ผู้ตื่น....และผู้เบิกบาน...อย่างแท้จริง...สังเกตุได้จากการที่คุณนกหลับเลือกที่จะอยู่ฝ่ายธรรมมะ....
ฝากบอกคุณนกแลด้วยความหวังดีจากใจจริงว่า....คุณนกแลอาจจะคิดว่าการทำความดีนั้นช่างยากลำบากซะเหลือเกิน...ถึงได้เลือกไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม...กลับตัวกลับใจซะเถอะนะ....การทำความดีไม่มีคำว่าสายไปหรอกนะจ๊ะ...ตอนนี้ยังพอมีเวลา
.....ราชาที่รัก.....
ราชาทำให้เราเสียน้ำตายังไม่พอใจอีกไงเนี่ย....ยังจะมาติดต่อซื้อตัวนักแตะดาวรุ่งพุ่งแรงแถมสวมปลอกกัปตันทีมของเราด้วย....ทำได้ไงเนื่ย...โหดร้ายมากๆ
เชอะ!!!! ...ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคุณนกหลับ...เขามีวิจารณะญาณ (ไม่รู้ถูกป่าวนา....คือพวกลูกครึ่งก็เงี๊ยแหละ....ม่ายเก่งภาษาไทย) การที่เขามาอยู่ทีมเราไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการหรือหิวกระหายที่จะชนะ หรือโหยหาชัยชนะอยู่ร่ำไป เหมือนใครบางคนแถวนี้ บอกไว้ก่อนเลยว่าถึงแพ้ก็ไม่เสียใจ...เพราะพวกเราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
....แพ้เป็นองค์ราม (เราเป็นพระแม่สีดา)...ชนะเป็นราวัณ / ทศกัณฑ์ / ราชา.....
ป.ล.ราชาเข้าใจเปรียบเทียบนะจ๊ะ เรื่องสงครามกะเครื่องแต่งตัว....เราขำๆๆๆๆๆ อยู่ตั้งนาน ....มันคุ้นๆๆๆๆ อยู่นา แสดงว่าที่หายไปเนี่ยนะ...ไปซุ่มอ่านพวกนวนิยายรักหวานซึ้งนึ่งข้าวเหนียวมาอะดิ...ใช่ป่าว
คถ. (คิดถึงนะจ๊ะ)
หนังเศร้า เคล้าน้ำตา ที่ดิฉันร้องไห้มากมาย....คือว่าร้องได้ทั้ง 3 แผ่น...ร้องไห้ต่อเนื่องเลย...คือเรื่องลูกไม้ ไกลต้น อีกหลายเรื่องที่ร้องไห้บ้างคือเรื่องสามชีวิตหนึ่งหัวใจ...ฉากประมูลบ้านและฉากนักร้องคนที่โอมเคยไม่ชอบมาร้องเพลงให้โอมและเชื่อมโยงภาพไปหางานที่สามพี่น้องกำลังฝ่าฟันด้วยความหวัง .... สามรักสามเศร้า...ฉากที่ราชเอาฝ่ามือไปกดลงบนเปลวเทียน.... ฟ้ามิอาจกลั้นรัก...ฉากที่โรฮานสะพายกระเป๋าและใช้มือป้ายนำตา... เดฟดาส ทาสหัวใจ...ฉากที่ปาโรยึดข้อมือเดฟดาสตอนที่แม่เรียกไปเข้าพิธีแต่งงาน อโศกมหาราช...ฉากที่เจ้าชายอารยาล้มลง....เรื่องที่ดิฉันมักจะแนะนำเสมอ ๆให้ใครได้ดูคือประมาณว่าถ้าใครไม่ได้ดูเรื่องนี้แล้วจะต้องเหมือนกับว่าไม้ได้ดูหนังแขกเลย...ถึงจะดูกี่ร้อยเรื่องก็เถอะคือเรื่องอโศกมหาราช....เพราะว่าดิฉันเคยอ่านวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมชั้นหนึ่ง (ร้อยแก้ว)พ.ศ.2515 ที่ได้รับจากธนาคารกรุงเทพฯผู้แต่งคือท่านอาจารย์......จำชื่อท่านไม่แม่นเลยค่ะเป็นพระภิกษุ....ชื่อเรื่งวิมุติรัตนมาลี มีทั้งหมด 3 เล่ม...ท่านจะพาเราชาวพุทธให้เข้าใจว่าอะไรคือจุดที่สำคัญที่ทุกชิวิตต้องมีศาสนา...อ่านจบแล้วจะยกมือสาธุแล้ว...สาธุอีกทุกครั้งที่ได้อ่าน....หาอ่านได้ตามห้องสมุดประชาชน...ในนั้นจะมีเรื่องของพระเจ้าอโศกกับพุทธศาสนา...สรุปนิดนึงนะคะว่า....มีกุลบุตรท่านหนึ่งตั้งจิตอธิษฐานไวเนิ่นนานชาติมาว่า....ขอเป็นสาวกอระหันต์ในสมเด็จพระสมณโคดมบรมครูคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจุบันซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 4 ในภัทรกัปนี้นั่นเอง....องค์ต่อไปคือพระศรีอารย์เมตรัยซื่งจะเป็นองค์ที่ 5 เป็นองค์สุดท้ายในภัทรกัปนี้...โลกก็จะร้างไปจนกว่าจะมีปัจจัยพอเหมาะกับการเกิดได้จึงจะมีการเกิดอีกจากชั้นภูมิที่รอดอยู่คือพรหมโลก???..... หลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจุบันได้ปรินิพานไปแล้ว 226 ปี กุลบุตรท่านนั้นได้มาเกิดเป็นพระเจ้าอโศกได้ทนุบำรุงพระพุทธศานาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน...ก่อนจะนำพระบรมสารีริธาตุมาได้จากสถูปที่ท่านพระมหากัสสปอธิษฐานคุ้มครองเอาไว้พระเจ้าอโศกต้องก้มลงกราบด้วยองค์เองเพราะวิธีอื่นใดก็ไม่สามราถอัญเชิญออกมาได้...ท่านมหากัสสปเถระทำนายโดยมีป้ายบอกไว้เมื่อ 226 ปีแล้วในชั้นแรกๆว่า พระยาเข็ญใจจะมานำพระบรมสารีริธาตุไป...พระจ้าอโศกพิโรธมากเพราะขณะนั้นท่านเป็นมหาจักพรรดิ์ที่ร่ำรวยกว่าใคร ๆ แต่ในชั้นสุดท้ายท่านมหากัสสปะได้สรรเสริญบุญของพระเจ้าอโศกและบุญที่ท่านและอนุญาติให้พระเจ้อโศกนำพระบรมสารีริธาตุไปเพื่อแจกจ่ายให้ประเทศน้อยใหญ่มากมายถึง 84,000 พระธรรมขันธ์...เจ้าชายมหินทรา และเจ้าหญิงสังคมิตราซึ่งเป็นพระราชโอรสและพระราชธิดาที่เกิดจากพระมารดาที่เป็นชาวพุทธได้บวชจนได้อระหันต์ทั้งสองพระองค์....ซึ่งท่านทั้งสองเป็นต้นนิกายเถระวาทที่ชาวไทยส่วนใหญ่นับถือ....เมื่อจะสิ้นสมัยพระเจ้าอโศกท่านก็ป่วย...มีพระประสงค์จะทำบริจาคทานก็ไม่ได้เพราะพระคลังหลวงโดนยึดกุลแจไว้โดยมีการห้ามไม่ให้นำพระราชทรัพย์มาให้ท่านบริจาค...พระเจ้าอโศกเศร้าใจว่าทรัพย์ทั้งหมดมากมายจะบริจาคก็ไม่ได้..มองไปเห็นแต่ผลมะขามป้อมกะเกลื่อที่นำมาเป็นพระโอสถ...จึงนึกถึงคำทำนายของท่านมหากัสสปเถระว่า พระยาเข็ญใจ...นึกหดหู่จิตใจเศร้าหมองและขาดใจตายขณะจิตเศร้าหมองจึงไปเกิดเป็นงูเหลือมอาศัยอยู่ที่แม่น้ำอจิรวดี...จนเติบโตกายเท่าเรือโกลน....นอนกินกบ เขียด ปลาตามประสาเดรัจฉาน..โดยไม่ระลึกได้เลยว่าเคยเป็นใคร...นานจนกรรมขณะที่จิตเศร้าอันนั้นจะหมดไปจึงเป็นเหตุให้พระมหินทรา อระหัต์ ต้องการเข้าสมาธิวิปัสสนาเพื่อทดลองเสวยรสแห่งพระนิพพานพอท่านออกจากสมาธิแล้วความสุขอันนั้นทำไห้คิดเกี่ยวเนื่องไปว่าได้มาจากใครหนอ..เพราะกรรมพ่อจะหมดจากชาติที่เป็นงูเหลือมจึงไห้นึกไปว่า อ๋อ...ได้มาจากพระราชบิดาไห้บวช...จึงส่องดูด้วยอภิญญาว่าพ่อเราทำบูญมากขณะนี้ขะอยู่ที่ใดหนอ...แต่ปรากฏว่าพ่อเป็นงูเหลือม....จึงเหาะไปหาเพื่โปรดงูเหลือมพบแล้วก็สกดให้งูเหลือมระลึกชาติ....หงูเหลือมจำได้ว่าเปนบุตร...ก็น้ำตาไหล...เอาคางเกยพระบาทอระหันต์บุตรชาย...พระมหินทราบอกว่าพอ่บูญมากมายไม่สมควรได้เป็นงูเหลือม...ให้พ่อรักษาศีล...หงูเหลือมก็รักษศีลไม่ยอมกินกบ เขียด ปลา จนร่างกายแตกดับจากชาติงูเหลือม...ไปเสวยบุญเป็นเทพบุตรที่มีทรัพย์สมบัติอันงดงามและยิ่งใหญ่และจะเสวยไปได้นานนับไม่ได้.....แต่ด้วยเหตุแห่งบุญที่ได้อธิฐานเปนสาวกอระหันต์มีมากกว่าและถึงเวลาแล้วจึงอธิษฐานจุติจากภพที่เป็นเทพบุตรนั้นมาเกิดเป็บุตรชายมหาเศรษฐีและขออนุญาติบิดาบวชตั้งแต่เป็นเด็กและบรรลุอระหันต์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ......ได้อ่านวิมุตตติรัตน์มาลี พ.ศ.2541....และได้ดูหนังเรื่องอโศกมหาราชพ.ศ.2544....ใครดูหนังแลงดิฉันก็จะคอยเล่าเรื่องงูเหลือมพระเจ้าอโศกเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ......ดิฉันก็หวังว่าเพื่อนๆ ท่าใดที่ยังไม่เคยรู้....พอได้ฟังเรื่องพระมหินทรากับพราชบิดาแล้ว...และยิ่งถ้าได้อ่านด้ยตัวเองตรงคำว่า .....หงูเหลือมน้ำตาไหล....เอาคางเกยเท้าอระหันต์บุตรชายไว้....แล้วจะร้องให้อยู่ในใจ...และประทับอยู่ในความทรงจำอยู่ไม่รู้เสื่อมคลาย......เพราะเหตุที่กรรมของเจ้าตัวยังไม่ได้เบาลง...บุญของบุตรชายที่ยิ่งใหญ่ถึงอระหันต์ก็ส่องไม่ถึงได้เลย.....
เมื่อวานน้องที่พี่แดงให้เขายืมหนังสือวิมุติรัตนมาลีไปเขาได้เอามาคืน...ก็เลยเปิอ่านทบทวนนิทานพระเจ้าอโศกมหาราช....พี่แดงเล่าตกไปนิดหน่อยแต่สำคํญนะคะ..
ว่า....พระเจ้าอโศกป่วย...อยากสร้างกุศลตามปกติของมหาราชที่ยิ่งใหญ่และรำรวย...นึกอยากทำตอนไหนก็ได้ทุกเมื่อและมากมาย....ก็ให้เหล่านางสนมนำมาไห้จะไปทำทาน...เขาก็ร้องให้...พระเจ้าอโศกก็ไม่พอพระทัยบอกให้หาเสนาอำมาตย์มา...และให้เบิกทรัพย์มาให้จะทำกุศลเขาก็ร้องให้เหมือนกัน(เพราะเขาก็ได้รับคำสั่งมาอีกทีว่าห้ามบำทรัพย์สินมาพระเจ้าอโศกทำทานอีก...).พระเจ้าอโศกก็ไล่เขาไป...ก็เศร้าใจ...มองไปเห็นแต่ผลมะขามป้อมกะเกลือ...ที่เอาไว้เป็นยา....ก็นึกถึงคำทำนายของพระมหากสปเถระว่า พระยาเข็ญใจ....ก็นึกว่าเออหนอทรัพย์สมบัตรหามามากแค่ไหน...เป็นของเราแท้ๆๆก็จะทำทานไม่ได้....ก็เศร้าใจนัก..และทั้งคิดคับแค้นใจในเหล่าเสนาอำมาตย์ว่าไม่สามารถช่วยได้ทั้งที่เคยร่วมทุกข์สุขกันมา....จิตวนเวียนอยู่ในลักษณะนี้และสวรรคตในขณะจิตแบบนี้....จึงไปเกิดเป็นงูเหลือมที่แม่น้ำอจิระวดี....( เคยเล่าถึงไว้ข้างบนนะคะ)